United Mexican States oor Thai

United Mexican States

naamwoord

A country in North America, to the south of the United States and to the north of Guatemala and Belize.

Vertalings in die woordeboek Engels - Thai

ประเทศเม็กซิโก

naamwoord

A country in North America, to the south of the United States and to the north of Guatemala and Belize.

สหรัฐเม็กซิโก

naamwoord

เม็กซิโก

eienaam

united mexican states

geographic terms (country level)

Vertalings in die woordeboek Engels - Thai

เม็กซิโก

eienaam

สหรัฐเม็กซิโก

naamwoord

geographic terms (country level)

voorbeelde

The Constitution of Mexico, formally the Political Constitution of the United Mexican States (), is the current constitution of Mexico. It was drafted in Santiago de Querétaro, in the State of Querétaro, by a constituent convention, during the Mexican Revolution. It was approved by the Constituent Congress on 5 February 1917.
รัฐธรรมนูญเม็กซิโก มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ธรรมนูญการเมืองแห่งสหรัฐเม็กซิโก () เป็นรัฐธรรมนูญเม็กซิโกฉบับปัจจุบัน ร่างในเมืองซานเตียโกเดเกเรตาโร รัฐเกเรตาโร โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญระหว่างการปฏิวัติเม็กซิโก ได้รับอนุมัติโดยสภารัฐธรรมนูญ (Constitutional Congress) เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1917 เป็นฉบับสืบทอดจากรัฐธรรมนูญฉบับ ค.ศ. 1857 และหลายฉบับก่อนหน้า

In 1845 what was once part of Mexico became part of the United States, and Mexicans found themselves in hostile territory.
ใน ปี 1845 ดินแดน ส่วน ซึ่ง เคย เป็น ของ เม็กซิโก จึง กลับ กลาย เป็น ของ สหรัฐ และ ชาว เม็กซิโก พบ ว่า ตัว เอง ตก อยู่ ใน เขต แดน ของ ฝ่าย ปรปักษ์.

The Mexican–American War, also known in the United States as the Mexican War and in Mexico as the "Intervención Estadounidense en México" ("U.S. intervention in Mexico"), was an armed conflict between the United States and Mexico from 1846 to 1848.
สงครามเม็กซิโก–อเมริกา หรือสงครามเม็กซิโก สงครามสหรัฐ–เม็กซิโก การบุกครองเม็กซิโก การแทรกแซงของสหรัฐ หรือสงครามต่อต้านเม็กซิโกของสหรัฐ เป็นการขัดกันด้วยอาวุธระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหรัฐเม็กซิโกตั้งแต่ ค.ศ. 1846 ถึง 1848 หลังการผนวกเท็กซัสของสหรัฐเมื่อปี 1845 ซึ่งเม็กซิโกถือว่าเป็นดินแดนของตน

In 1923, I married a Mexican woman who was also living in the United States.
ปี 1923 ผม แต่งงาน กับ สุภาพสตรี ชาว เม็กซิกัน คน หนึ่ง ซึ่ง อยู่ ที่ สหรัฐ เช่น กัน.

During Mexican ex-president Santa Anna’s exile in the United States, he was noticed chewing pieces of chicle that he had brought with him from Mexico.
ระหว่าง ที่ อดีต ประธานาธิบดี ซานตา อันนา แห่ง เม็กซิโก ถูก เนรเทศ อยู่ ใน สหรัฐ มี ผู้ สังเกต เห็น เขา เคี้ยว ยาง ไม้ เป็น ชิ้น ๆ ซึ่ง เขา นํา ไป จาก เม็กซิโก.

Many Mexicans do because of their profession or because they have lived in the United States.
ชาว เม็กซิโก หลาย คน พูด ภาษา อังกฤษ เนื่อง ด้วย อาชีพ ของ เขา หรือ เคย อาศัย อยู่ ใน สหรัฐ.

Mexico is the second-largest consumer of bottled soft drinks in the world after the United States, and soft drinks are among the ten most common products in the Mexican diet, consumed by 60 percent of families, reports the newspaper Reforma.
หนังสือ พิมพ์ รีฟอร์มา รายงาน ว่า เม็กซิโก เป็น ผู้ บริโภค น้ํา อัด ลม บรรจุ ขวด ราย ใหญ่ เป็น อันดับ สอง ของ โลก รอง จาก สหรัฐ และ น้ํา อัด ลม เป็น หนึ่ง ใน สิบ ของ ผลิตภัณฑ์ อาหาร/เครื่อง ดื่ม ที่ แพร่ หลาย ที่ สุด ของ ชาว เม็กซิโก คือ มี 60 เปอร์เซ็นต์ ของ ครอบครัว บริโภค น้ํา อัด ลม.

Soon disillusioned with the Mexican leadership, the Americans under Kemper returned to the United States. The ephemeral Republic of Texas came to an end on August 18, 1813, with the Battle of Medina, where the Spanish Army crushed the Republican Army of the North. The harsh reprisals against the Texas rebels created a deep distrust of the Royal Spanish authorities, and veterans of the Battle of Medina later became leaders of the Texas Revolution and signatories of the Texas Declaration of Independence from Mexico 20 years later.
แม้ว่าเท็กซัสจะเป็นรัฐที่ปกครองตนเอง แต่เม็กซิโกปฏิเสธที่จะยอมรับเท็กซัสเป็นรัฐเอกราช ในวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 1842 กองกําลังเม็กซิโกกว่า 500 นาย นําโดยราฟาเอล บัสเกซ ทําการรุกรานเท็กซัสเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีการปฏิวัติมา พวกเขาร่นถอยกลับไปยังแม่น้ํารีโอแกรนด์หลังจากเข้ายึดครองแซนแอนโทนีโอเป็นเวลาสั้น ๆ ในเวลาต่อมาทหารเม็กซิโกอีก 1,400 นาย นําโดยนายพลรับจ้างชาวฝรั่งเศส อาดรีย็อง โวล เปิดฉากโจมตีเป็นครั้งที่สองและเข้ายึดเมืองแซนแอนโทนีโอได้อีกครั้งในวันที่ 11 กันยายน ปี 1842 ทหารอาสาสมัครเท็กซัสจึงทําการตอบโต้ในยุทธการที่ซาลาโดครีก แต่ต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อทหารเม็กซิโกและชาวเผ่าเชอโรคีที่อาศัยอยู่ในเท็กซัสในวันที่ 18 กันยายนในเหตุการณ์ที่เรียกว่า การสังหารหมู่ดอว์สัน

The 1848 Treaty of Guadalupe Hidalgo ended the war and enforced the Mexican Cession of the northern territories of Alta California and Santa Fe de Nuevo México to the United States. Mexico acknowledged the loss of what became the State of Texas and accepted the Rio Grande as its northern border with the U.S.
สงครามเม็กซิโก–อเมริกา หรือสงครามเม็กซิโก สงครามสหรัฐ–เม็กซิโก การบุกครองเม็กซิโก การแทรกแซงของสหรัฐ หรือสงครามต่อต้านเม็กซิโกของสหรัฐ เป็นการขัดกันด้วยอาวุธระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหรัฐเม็กซิโกตั้งแต่ ค.ศ. 1846 ถึง 1848 หลังการผนวกเท็กซัสของสหรัฐเมื่อปี 1845 ซึ่งเม็กซิโกถือว่าเป็นดินแดนของตน การปฏิบัติการรบกินเวลานานหนึ่งปีครึ่งจากฤดูใบไม้ผลิปี ค.ศ. 1846 ฤดูใบไม้ร่วงปี ค.ศ. 1847 กองทัพอเมริกันได้ครอบครองนิวเม็กซิโก และแคลิฟอร์เนียอย่างรวดเร็วแล้วบุกเข้ามาในส่วนของเม็กซิโกตะวันออกเฉียงเหนือ และเม็กซิโกตะวันตกเฉียงเหนือ

On 15 August 2012, the United States defeated Mexico at Estadio Azteca in the first victory for the U.S. against Mexico on Mexican soil in 75 years. Ever since their first meeting in 1934, the two teams have met 67 times, with Mexico leading the overall series 36–19–15 (W–L–D), outscoring the U.S. 138–79. However, since the 1990s, the tide began to change due to a rapid growth of soccer in the United States.
เม็กซิโกเข้ารอบฟุตบอลโลก 15 ครั้งและเข้ารอบทุกครั้งตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 สถิติที่ดีที่สุดของทีมชาติเม็กซิโกคือติดรอบ 8 ทีมสุดท้ายทั้งในปี 1970 และ 1986 ซึ่งทั้ง 2 ครั้ง เม็กซิโกเป็นเจ้าภาพ ทีมชาติเม็กซิโกเคยชนะ คอนเฟเดอเรชันส์คัพ 1 ครั้ง, โกลด์คัพ 5 ครั้ง, คอนแคแคฟแชมเปียนชิพ 3 ครั้ง, นอร์ทอเมริกันเนชันส์คัป 1 ครั้งและ เอ็นเอเอฟซีแชมเปียนชิป 2 ครั้ง

Newspapers barely reported on the Rio Blanco textile strike, the Cananea strike or harsh labor practices on plantations in Oaxaca and Yucatán. Leftist Mexican opponents of the Díaz regime, such as Ricardo Flores Magón and Práxedis Guerrero, went into exile in the relative safety of the United States, but cooperation between the U.S. government and Díaz's agents resulted in the arrest of some.
การจะตีพิมพ์อะไรเพียงเล็กน้อยในเม็กซิโกถูกมองว่ากําลังวิพากษ์วิจารณ์ระบอบการปกครอง หนังสือพิมพ์แทบไม่ได้รายงานเหตุการณ์การยัดหยุดงานที่รีโอบลังโก การนัดหยุดงานที่คาเนเนอา หรือการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างโหดร้ายในไร่ที่โออาซากาและยูกาตัง กลุ่มฝ่ายซ้ายที่ต่อต้านดีอัซ เช่น ริการ์โด ฟลอเรซ มากอน และปราเซดิส เกอร์เรโร หลบหนีลี้ภัยอย่างปลอดภัยที่สหรัฐอเมริกา แต่ด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลสหรัฐกับสายลับของดีอัซทําให้พวกเขาถูกจับกุม

In practice, much of the disputed territory was occupied by the Comanche and outside the control of either state, but Texian claims included the eastern portions of New Mexico, which was administered by Mexico throughout this period. Texas was annexed by the United States on December 29, 1845 and was admitted to the Union as the 28th state on that day, with the transfer of power from the Republic to the new state of Texas formally taking place on February 19, 1846. However, the United States inherited the southern and western border dispute with Mexico, which became a trigger for the Mexican–American War (1846–1848).
สาธารณรัฐเท็กซัส () หรือ สาธารณรัฐเตฆัส () คือรัฐเอกราชในทวีปอเมริกาเหนือที่ดํารงอยู่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1836 ถึง 1846 โดยมีชายแดนติดอยู่กับสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโก สาธารณรัฐเท็กซัสสถาปนาตนเองเป็นสาธารณรัฐโดยแยกดินแดนออกมาจากเม็กซิโกในเหตุการณ์ปฏิวัติเท็กซัส โดยอ้างสิทธิ์ในดินแดนที่มีขอบเขตครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของรัฐเท็กซัส รวมไปถึงบางส่วนของรัฐนิวเม็กซิโก, โอคลาโฮมา, แคนซัส, โคโลราโด และไวโอมิงของสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน โดยยึดตามสนธิสัญญาวิลาสโกระหว่างสาธารณรัฐเท็กซัสที่เพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่กับเม็กซิโก พรมแดนทางตะวันออกกับสหรัฐอเมริกาถูกกําหนดโดยสนธิสัญญาแอดัมส์-โอนิสที่ทําขึ้นระหว่างสหรัฐอเมริกากับสเปนในปี ค.ศ. 1819 ส่วนพรมแดนทางตอนใต้และทางตะวันตกซึ่งติดกับเม็กซิโกนั้นตกเป็นข้อพิพาทระหว่างสองประเทศตลอดระยะเวลาที่สาธารณรัฐดํารงอยู่ โดยเท็กซัสใช้สองฝั่งของแม่น้ํารีโอแกรนด์เป็นตัวขีดเส้นแบ่งพรมแดน ในขณะที่เม็กซิโกใช้แม่น้ํานูเอซิสในการปักปันเขตแดน ซึ่งข้อพิพาทดังกล่าวกลายเป็นเหตุชนวนสงครามเม็กซิโก-อเมริกา

Since the press was suppressed in Mexico under Díaz, little was published that was critical of the regime. Newspapers barely reported on the Rio Blanco textile strike, the Cananea strike or harsh labor practices on plantations in Oaxaca and Yucatán. Leftist Mexican opponents of the Díaz regime, such as Ricardo Flores Magón and Práxedis Guerrero, went into exile in the relative safety of the United States, but cooperation between the U.S. government and Díaz's agents resulted in the arrest of some.
เนื่องด้วยสื่อถูกปราบปรามในเม็กซิโกภายใต้การปกครองของดีอัซ การจะตีพิมพ์อะไรเพียงเล็กน้อยในเม็กซิโกถูกมองว่ากําลังวิพากษ์วิจารณ์ระบอบการปกครอง หนังสือพิมพ์แทบไม่ได้รายงานเหตุการณ์การยัดหยุดงานที่รีโอบลังโก การนัดหยุดงานที่คาเนเนอา หรือการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างโหดร้ายในไร่ที่โออาซากาและยูกาตัง กลุ่มฝ่ายซ้ายที่ต่อต้านดีอัซ เช่น ริการ์โด ฟลอเรซ มากอน และปราเซดิส เกอร์เรโร หลบหนีลี้ภัยอย่างปลอดภัยที่สหรัฐอเมริกา

In the state of Veracruz, the Mexican army gunned down Rio Blanco textile workers and put the bodies on train cars that transported them to Veracruz, ""where the bodies were dumped in the harbor as food for sharks"". Government suppression of strikes was not unique to Mexico, with parallel occurrences both in the United States and Western Europe. Since the press was suppressed in Mexico under Díaz, little was published that was critical of the regime.
จากนั้นนําศพของแรงงานขึ้นรถไฟบรรทุกไปยังเบราครูซ "ซึ่งศพของพวกเขาถูกโยนทิ้งจากท่าเรือเพื่อเป็นอาหารให้ฉลาม" การปราบปรามการนัดหยุดงานโดยรัฐบาลไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สําหรับเม็กซิโก โดยเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรปตะวันตกด้วย เนื่องด้วยสื่อถูกปราบปรามในเม็กซิโกภายใต้การปกครองของดีอัซ การจะตีพิมพ์อะไรเพียงเล็กน้อยในเม็กซิโกถูกมองว่ากําลังวิพากษ์วิจารณ์ระบอบการปกครอง